ที่มาของผงโยเกิร์ตพร้อมวิธีการทำผงโยเกิร์ต

ผงโยเกิร์ตเป็นสินค้าที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้เป็นส่วนผสมในการทำอาหารและขนมต่างๆ โดยมีคุณสมบัติพิเศษคือให้รสชาติและความเป็นกรดที่คล้ายคลึงกับโยเกิร์ตสด นอกจากนี้ยังมีความสะดวกในการเก็บรักษาและการใช้งานที่ง่ายดาย ประวัติความเป็นมาและวิธีการทำของผงโยเกิร์ตมีดังนี้

ประวัติความเป็นมา

ผงโยเกิร์ตถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรสชาติของโยเกิร์ตในรูปแบบที่เก็บรักษาได้นานและใช้งานสะดวก เนื่องจากโยเกิร์ตสดมีอายุการเก็บรักษาที่จำกัดและต้องเก็บในตู้เย็น ผงโยเกิร์ตจึงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกสำหรับการเก็บโยเกิร์ตสด เช่น ในการท่องเที่ยว หรือใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารแปรรูปต่างๆ

วิธีการทำผงโยเกิร์ต

ผงโยเกิร์ตผลิตจากโยเกิร์ตสดที่ผ่านกระบวนการลดน้ำหนักโดยใช้วิธีการทำแห้งแบบพ่นฉีด (spray drying) หรือการทำแห้งแบบแช่แข็ง (freeze drying) ทั้งสองวิธีนี้ช่วยให้สามารถเก็บรักษาคุณสมบัติของโยเกิร์ตไว้ได้เป็นอย่างดีพร้อมกับลดความชื้นให้น้อยที่สุด

1. การเตรียมโยเกิร์ตสด: เริ่มจากการผลิตโยเกิร์ตสดด้วยกระบวนการหมักนมด้วยเชื้อแบคทีเรียที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้โยเกิร์ตที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ต้องการ

2. การทำแห้ง:

  • Spray Drying: โยเกิร์ตสดจะถูกพ่นผ่านหัวฉีดที่ความเร็วสูงในอุณหภูมิสูง ทำให้น้ำในโยเกิร์ตระเหยออกอย่างรวดเร็ว ได้ผงโยเกิร์ตที่มีความละเอียดสูง
  • Freeze Drying: โยเกิร์ตสดจะถูกแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำมาก แล้วนำไปในห้องสูญญากาศเพื่อทำให้น้ำในโยเกิร์ตระเหยออกไป โดยไม่ผ่านรูปแบบของของเหลว ส่งผลให้ได้ผงโยเกิร์ตที่มีคุณภาพสูง

3. บรรจุภัณฑ์: หลังจากได้ผงโยเกิร์ตแล้ว จะทำการบรรจุในแพ็กเกจที่มีการป้องกันความชื้นและแสง เพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติให้คงทนนานยิ่งขึ้น

ผงโยเกิร์ตใช้กับอาหารและขนมหลากหลายประเภท

  • เบเกอรี่: ผงโยเกิร์ตสามารถเพิ่มเข้าไปในสูตรขนมเค้ก มัฟฟิน หรือคุกกี้ เพื่อเพิ่มรสชาติที่เป็นกรดเล็กน้อยและช่วยให้เนื้อสัมผัสนุ่มขึ้น
  • เครื่องดื่ม: ใช้ผงโยเกิร์ตในการทำสมูทตี้หรือเครื่องดื่มผสม ช่วยเพิ่มรสชาติโยเกิร์ตแบบเข้มข้นโดยไม่ต้องใช้โยเกิร์ตสด
  • มาริเนตเนื้อสัตว์: ผงโยเกิร์ตสามารถเพิ่มเข้าไปในส่วนผสมของน้ำมาริเนตเพื่อช่วยให้เนื้อสัตว์นุ่มและเติมรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
  • ดริปปิ้งและเดรสซิ่ง: ใช้ผงโยเกิร์ตผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำมัน น้ำส้มสายชู หรือสมุนไพร เพื่อทำเป็นเดรสซิ่งสลัดหรือซอสจิ้ม
  • อาหารเช้า: โรยผงโยเกิร์ตลงบนซีเรียล โอ๊ตมีล หรือโยเกิร์ตประเภทต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและประโยชน์ทางโภชนาการ
  • ขนมหวานและไอศครีม: ใช้ผงโยเกิร์ตในการทำพุดดิ้ง มูส หรือเพิ่มเข้าไปในไอศกรีม เพื่อให้ได้รสชาติโยเกิร์ตที่หอมหวานและเป็นกรดนิดๆ
  • ส่วนผสมในการทำแพนเค้กหรือวาฟเฟิล: ผงโยเกิร์ตสามารถเพิ่มเข้าไปในแป้งสำหรับทำแพนเค้กหรือวาฟเฟิล เพื่อเพิ่มความนุ่มและรสชาติเปรี้ยว

ผงโยเกิร์ตจึงเป็นส่วนผสมที่มีความหลากหลายและสะดวกสำหรับการใช้ในหลายๆ รูปแบบการประกอบอาหาร ทำให้เหมาะสำหรับการเก็บไว้ใช้ในครัวเรือน เช่น ขนม เครื่องดื่ม หรืออาหารที่ต้องการรสชาติและคุณสมบัติของโยเกิร์ตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาในตู้เย็น ทำให้เหมาะสำหรับการเก็บไว้ใช้ในครัวเรือน